ผู้โชคดีคว้ารางวัลแจ็กพอตใหญ่เป็นประวัติการณ์ของ ลอตเตอรี่ พาวเวอร์บอล (Powerball) มูลค่าสูงถึง 2,040 ล้านดอลลาร์ หรือราว 75,000 ล้านบาท ไปแล้วในการประกาศผลการออกรางวัลสลากนี้ในช่วงเช้าวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐฯ โดยมีการระบุตัวเพียงว่า เป็นผู้ที่ซื้อหมายเลขซึ่งถูกรางวัลจากพื้นที่ทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
การประกาศผลการออกรางวัลใหญ่ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเท่าที่พาวเวอร์บอลเคยบันทึกไว้ ล่าช้ากว่ากำหนดการปกติไปถึงเกือบ 10 ชั่วโมง เนื่องจากมีปัญหาการประมวลข้อมูลการขาย โดยเจ้าหน้าที่ของพาวเวอร์บอลยอมรับว่า แม้จะมีการล่าช้าอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับรางวัลก้อนโตขนาดนี้ สิ่งที่ผู้ดูแลให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกคือ ความปลอดภัย
ดรูว์ สวิตโก ประธาน Powerball Product Group และผู้อำนวยการบริหารของ Pennsylvania Lottery กล่าวว่า “การปกป้องความสมบูรณ์ของการออกรางวัลคือ สิ่งที่มีความสำคัญที่สุด และเราสามารถจัดการเรื่องนี้ในช่วงการจับสลากครั้งประวัติศาสตร์ ด้วยความร่วมมือจากหน่วยลอตเตอรี่ที่เข้าร่วมทุกหน่วย”
หมายเลขที่คว้าเงินรางวัลกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ไปได้คือ 10, 33, 41, 47 และ 56 โดยเลขพาวเวอร์บอลคือ 10
รายงานข่าวระบุว่า สลากที่มีหมายเลขชุดดังกล่าวนั้นถูกจำหน่ายออกไปที่ ศูนย์บริการดูแลรถยนต์ที่ชื่อ Joe’s Service Center ในชุมชนอัลตาเดนา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของนครลอสแอนเจลิส ในฐานที่เป็นผู้จำหน่ายสลากที่ถูกรางวัลแจ็กพอตนี้ ศูนย์บริการแห่งนี้จะได้รับโบนัสสูงสุดเป็นเงิน 1 ล้านดอลลาร์ด้วย
ก่อนหน้าการประกาศรางวัลครั้งนี้ เงินรางวัลก้อนใหญ่ที่สุดที่พาวเวอร์บอลบันทึกไว้คือ 1,586 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีผู้ชนะร่วมกัน 3 รายในปี ค.ศ. 2016 และ ในประวัติศาสตร์ของลอตเตอรี่พาวเวอร์บอลที่สูงถึงระดับพันล้านดอลลาร์นั้นมีอยู่แค่เพียง 4 ครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่สูงใกล้กับรางวัลที่เพิ่งประกาศออกมาเลย
อันเป็นผลมาจากการที่ไม่มีผู้ถูกรางวัลแจ็กพอตมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมนั่นเอง ผู้ที่ถูกรางวัลใหญ่นี้ สามารถเลือกที่จะรับเงินเป็นงวดรายปีติดต่อกัน 29 ปี แทนที่จะรับเงินสดครั้งเดียวซึ่งจะถูกหักภาษีไปจนเหลือราว 997.6 ล้านดอลลาร์ หรือราว 36,700 ล้านบาท โดยผู้ชนะในอดีตเกือบทุกคนเลือกจะรับเงินก้อนเดียว